AV Comm Thailand

 

 

เราใช้โสตทัศน์เพื่ออะไร

 

การสื่อสารทางโสตทัศนศึกษา
 
 

       การสื่อสารทางโสตทัศนศึกษา แต่ก่อนเคยมีภาควิชาโสตทัศนศึกษาเปิดสอนทั้งในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก จู่ๆวิชานี้ได้หายไปแล้วเปลี่ยนชื่อเป็นเทคโนโลยีการศึกษา แต่หลักสูตรยังคงเหมือนเดิม ส่วนเหตุผลนั้นผมเชื่อว่าผมรู้ เพียงแต่ไม่อยากจะกล่าวถึง

       ต่อมาวิชานี้ก็ถูกพวกเขาประณามว่าเป็นวิชาที่ใช้ไม่ได้ มีแค่ประเทศที่ล้าหลังอย่างประเทศไทย เวียดนามและจีนที่ยังงมโข่ง พูดยังกับเคยไปประเทศเหล่านั้นมาแล้ว มันทำให้ผมลำลึก แต่ก่อนที่เคยมีคนมาบอกว่า อย่าใช้คอมพิวเตอร์ มันไม่ดี ทำให้ผมงงว่าแล้วทำไมจึงมีคนยอมเสียเงินซื้อมาใช้เพื่อให้งานเลวลง แต่ต่อมาผมจึงทราบว่าเป็นเพราะพวกเขาใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็น เลยบอกว่าคอมพิวเตอร์ไม่ดี ซึ่งน่าจะเป็นเหตุผลเดียวกันกับวิชาโสตทัศนศึกษา เพราะเท่าที่ได้เห็นพวกเขาน่าจะหลงทางตั้งแต่ต้น ทำให้ใช้ไม่เป็น ผมไม่ได้หมายความว่าใช้โสตทัศนูปกรณ์ไม่เป็นแต่ใช้สื่อไม่เป็น ดังจะเห็นได้จากครั้งหนึ่ง ผมได้คุยกับด็อกเตอร์ด้านนี้ว่าเราใช้โสตทัศนศึกษาเพื่อการสื่อสาร เลยโดนสวนกลับมาว่าการศึกษาสมัยใหม่ไม่มีการสื่อสารไม่ทราบว่าเขาหลงทางกับวิชานี้ถึงขนาดนี้ หรือว่าอาจารย์ท่านนี้ต้องการจะตะบี้ตะบันเถียงกับผม เพื่อเอาชนะเพียงอย่างเดียว ว่าผมโง่เง่า

       เคยมีการพูดถึงภาพหนึ่งภาพสามารถใช้แทนคำพูดได้หนึ่งพันคำคำ นี่ก็เป็นการสื่อสารด้วยภาพ แต่ภาพส่วนใหญ่จะสื่อความหมายได้ไม่ค่อยจะถึงหนึ่งร้อยคำ และก็มีบ้างที่สื่อความหมายไปกันคนละทิศ ในวงการถ่ายภาพประกวดในประเทศไทยนั้นให้ความสนใจต่อภาพที่ส่งเข้าประกวดว่าภาพแบบไหนถึงจะชนะใจกรรมการตัดสิน และชอบดูแคลนภาพโฆษณา ว่าไร้ศิลปะ

       ครั้งหนึ่งผมเดินทางไปกับสมาคมถ่ายภาพแห่งหนึ่ง ไปที่น้ำตกพลิ้วจังหวัดจันทบูรณ์ พอไปถึง ผมได้เห็นผู้คนมากมาย บ้างก็เล่นน้ำตก บางก็นั่งปิคนิคกับครอบครัวอย่างมีความสุข ผมเลยรีบบันทึกภาพ สักครู่กลุ่มของสมาคมฯก็ตั้งขาตั้งกล้องปักหลักถ่ายรูปกันเป็นกลุ่มใหญ่ คนที่มาเล่นน้ำค่อยๆทะยอยหลีกทางให้กันหมด ผมเองก็เข้าไปถ่ายภาพกับเขาเหมือนกัน เพราะไหนๆก็มีโอกาสถ่ายภาพน้ำตกพลิ้ว โดยไม่มีใครเข้าไปบดบัง

 

 

รูปน้ำตกพลิ้วทั้ง 2 ภาพ โหลดมาจาก Google เพราะภาพเดิมของผมถ่ายเป็นสไลด์ก็ไม่ทราบว่าหายไปไหน เมื่อภรรยาผมเอาโต๊ะของผมไปใช้

 


ภาพที่เห็นน้ำตกพลิ้วที่มีคนมาเที่ยว และเล่นน้ำ ให้ความรู้สึกว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่ได้รับความนิยม และสนุก รวมทั้งภาพคนที่มาเล่นน้ำ ก็สามารถให้ความรู้สึกของขนาดน้ำตกได้ดี

 

 

       ต่อมามีคนมาขอภาพสไลด์น้ำตกพลิ้วไปประกอบบทความท่องเที่ยว แล้วเขาก็ให้เหตุผลว่าภาพน้ำตกที่มีคนมาเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน ภาพครอบครัวที่มานั่งทานปิกนิกอย่างอเร็ดอร่อยมีความสุข มันบ่งบอกว่าที่นี้ผู้คนสามารถมาเที่ยวได้สะดวก จึงมีคนนิยมมาเที่ยวมากมาย ส่วนภาพน้ำตกเดี่ยวๆได้แต่เอาไปทำปฏิทินหรือพิมพ์เป็นโปสการ์ดขาย

       เรื่องการสื่อสารด้วยภาพนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของวิชาโสตทัศนศึกษา ที่ผมเชื่อว่าไม่มีการสอนในภาควิชาโสตทัศนศึกษา หรือจะรวมทั้งหมดก็คือไม่มีการสอนว่า สื่อโสตทัศนศึกษาที่ดีควรเป็นอย่างไร เพราะผมพบแต่นักวิชาการด้านนี้แม้จะผลิตสื่อเป็น แต่ก็ไร้คุณภาพ แม้กระทั้งเทคนิคการนำเสนอก็เช่นกัน จึงไม่นำสื่อที่พวกเขาผลิตไปแล้วไม่ดี จึงบอกว่าวิชาโสตทัศนศึกษาไม่ดี ดังเช่นคนที่ใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็น เลยเที่ยวไปเตือนใครต่อใครว่าคอมพิวเตอร์ไม่ดี

 

 

 

 

ลงเมื่อวันที่ 18-03-2016


บทความอื่นๆ