เมื่อ 20 ปีมาแล้ว  ผมเจอเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตสื่อของหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เจ้านายที่ตำหนิว่า  พวกเขาทำงานไม่ถึงขั้นมืออาชีพ และเมื่อถูกถามกลับว่า  ขนาดไหนถึงจะเรียกว่าระดับมืออาชีพ เจ้านายตอบไม่ได้ สรุปได้ว่า  ทั้งเจ้านายและลูกน้องต่างไม่เข้าใจว่า แค่ไหนถึงจะเรียกว่า  เข้าขั้นระดับมืออาชีพได้ 
     ไม่กี่ปีหลังจากนั้นผมได้ชมละครโทรทัศน์ ที่นางเอกเป็นวิศกรโรงงาน  ผู้กำกับการแสดงจึงให้นางเอกถือไขควงตลอดทั้งเรื่อง  เพื่อให้ดูสมจริงว่านี่แหละคือวิศวกร แหมช่างระดับ ปวช ที่เรียกว่า วิศวกร  มือเปื้อนยังถือไขควงน้อยกว่าเยอะ (มีคนบอกว่าผู้แสดงเป็นนางเอกเรื่องนี้ชื่อ  สิเรียม และมีคุณปัญญา นิรันกุล เล่นเป็น อากู๋ ) 
     เมื่อไม่ถึงครึ่งปีมาแล้วผมเข้าเยี่ยมชมเวบไซต์หนึ่ง ที่รับจัดงานอีเวนท์  บอกว่าเป็นมืออาชีพ พร้อมทั้งมีภาพประกอบเป็นรูปมือที่ชูขึ้น พวกเขาคงเข้าใจว่า  ถ้ามีมือก็เรียกว่ามืออาชีพมั้ง 
     เมื่อ 20 ปีก่อน  ผมเคยไปขอใช้ห้องอบรมของบริษัท โกดัก(ประเทศไทย) จก. เพื่ออบรมการใช้กล้องวิว ( View Camera ) ให้กับอาจารย์โสตทัศน์ของวิทยาลัยครูทั่วประเทศ  (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยราชภัฏ) โดยมีผมและช่างภาพอาชีพอีก 4  ท่านที่จบการศึกษาด้านถ่ายภาพจากประเทศสหรัฐอเมริกาช่วยเป็นวิทยากร  
ผมถูกปฏิเสธเพราะผมไม่ใช่ช่างภาพมืออาชีพ  และอีกท่านหนึ่งที่ถ่ายภาพให้กับนิตยสาร Holiday Time in Thailand ก็ถูกปฏิเสธเพราะเขาบอกว่า  ถ้าเป็นช่างภาพให้กับนิตยสารถือว่า ไม่ใช่ช่างภาพมืออาชีพ  การเอาบุคคลที่ไม่ควอลลิฟาย คือไม่ใช่ช่างภาพมืออาชีพแล้ว ไปบรรยายที่ห้องอบรมของเขา  จะสร้างความเสื่อมเสียต่อชื่อเสียงของโกดัก  ขณะเดียวกันเขายังบอกว่าผู้ที่มีอาชีพเป็นช่างภาพถือว่า เป็นช่างภาพมืออาชีพแล้ว       ตกลงโกดัก (ประเทศไทย) ก็สับสนกับคำว่ามืออาชีพ 
ตกลงผมเลยขอใช้ห้องเรียนของสวนสุนันทาแทน  แล้วให้วิทยาลัยครูติดต่อโดยตรงกับโกดัก(ประเทศไทย) ซึ่งเขาก็ยินดีจัดบรรยาย  กลับกลายเป็นการถ่ายรูประดับสมัครเล่น(แถมยังรู้ไม่จริง)  แทนที่จะเป็นระดับมืออาชีพ มีเรื่องตลกตามมาหนึ่งหรือสองสัปดาห์หลังจากนั้น  สมาคมถ่ายภาพแห่งหนึ่ง ได้เข้าไปใช้ห้องอบรมนี้เพื่อถ่ายภาพนูด  และให้นางแบบลงไปแช่ในน้ำพุบ้าง นอนบนเก้าอี้โซฟาบ้าง  ตามห้องต่างๆบ้างรวมทั้งทางเดินทั่วทั้งสำนักงาน  ในลักษณะที่ดูแล้วไม่ค่อยจะมีศิลป์  หลังจากนั้นสมาชิกของสมาคมก็เอาภาพเหล่านั้นไปอวดใครต่อใครทั่วไปหมด  ทีอย่างนี้กลับไม่ห่วงเรื่องเสื่อมเสียชื่อเสียง 
     ถ้าโกดักบอกว่า  ผู้ที่ประกอบอาชีพถ่ายภาพถือได้ว่าเป็นช่างภาพมืออาชีพ  แล้วทำไมเมื่อตอนปลายของเหตุการณ์เสื้อแดงปิดที่สี่แยกราชประสงค์ ผมไปไหนไม่ได้  เลยเปิดโทรทัศน์ดูเป็นส่วนใหญ่ เห็นสป็อตโฆษณาทางโทรทัศน์  เรื่องสร้างครุให้เป็นครูมืออาชีพ  หมายความว่าผู้ที่ประกอบอาชีพครูต้องมีคุณสมบัติบางอย่างถึงจะเป็นครุมืออาชีพได้  ไม่ใช่พอเป็นครูปุ๊ปก็เป็นครูมืออาชีพปั๊ปอย่างที่โกดัก(ประเทศไทย)บอกหรือ ทำให้ผมระลึกถึงบทความในหนังสือพิมพ์  Bangkok Post ที่เขียนโดย นายทหารสหรัฐฯ เกี่ยวกับสงครามอีรักครั้งที่ 1 (  จำไม่ได้แล้วว่าครั้งนั้น เขาเรียกว่าสงครามอ่าว Gulf War หรือ  สงครามพายุทะเลทราย Desert Storm war)  เขาชมว่าทหารอิรักรบแบบทหารมืออาชีพ เขาบอกว่าทหารอิรักมีลูกล่อลูกชนแพรวพราวเช่น เอาสีทาลานบิน  ทำให้ผู้ที่อยู่บนอากาศ ดูแล้วนึกว่าสนามบินถูกทำลายย่อยยับแล้ว  เลยไม่ทิ้งระเบิดซ้ำ ทำหุ่นจรวดด้วยกระดาษแล้วเอาเครื่องส่งวิทยุราคาถูกๆไปส่งสัญญาณข้างๆ  พอเครื่องบินสหรัฐจับคลื่นวิทยุได้และเห็นจรวดปลอมก็ยิงขีปณาวุธราคาหลายสิบล้านเข้าทำลายของปลอม 
     แม้เมื่อสหรัฐทิ้งระเบิดทำลายการสื่อสารของอิรักจนน่าจะทำให้ทหารอิรักพินาศย่อยยับไปหมดแล้ว  แต่ทหารอิรักยังไม่ระส่ำและยังคงเกาะติดแน่นเพื่อตอบโต้สหรัฐอย่างน่าสรรเสริญ  ถ้าเป็นทหารธรรมดาคงไม่ทำให้กองทัพสหรัฐฯหัวปั่นได้อย่างนี้ 
     เมื่อประมาณ 20  ปีที่แล้ว ขณะที่สไลด์มัลติวิชั่นถือว่าเป็นสื่อที่มี impact สูงมาก  ผมเองก็มีทีมผลิตสื่อ ครั้งหนึ่ง เราต้องมีวีดีโอประกอบ ผมเลยติดต่อโปรดักชันเฮาส์ที่รับถ่ายวิดีโอสาระคดีให้มารับงาน  หลังจากหัวหน้าทีมผลิตสไลด์มัลติวิชั่นของผมกลับมาจากการถ่ายวิดีโอ  เขาบ่นอุ้บว่าคนที่ผมหาให้ทำงานไม่เป็นมืออาชีพเลย  บอกให้ถ่ายอะไรก็ยืนถ่ายอยู่ตรงนั้น เป็นอย่างนี้ทุกช็อต  ผมเลยบอกว่าครั้งต่อไปผมจะดูแลเอง  
     ในงานต่อมาผมได้นัดบรีฟงานกันหัวหน้ากองถ่ายวิดีโอ  สรุปเรื่องสั้นๆและบอกว่าอยากได้ภาพแบบไหน ก็มีการปรึกษากันนานพอสมควร  ตอนกลับผมได้มอบสคริปเรื่องนั้นให้เขาไปทั้งส่วนที่เป็นสไลด์  และส่วนที่เป็นวิดีโอเพื่อเอาไปศึกษาดู พอถึงวันถ่ายและทุกคนพร้อมกันที่สถานที่ที่จะถ่าย  ผมเข้าไปขออนุญาติเจ้าของสถานที่ (รัฐสภา) เพื่อเข้าถ่ายวิดีโอ  หลังจากนั้นผมปล่อยให้กองถ่ายวิดีโอเลือกมุมกล้อง เลือกวิธี approach  โดยไม่เข้าไปยุ่งหรือ สั่งงานอะไรทั้งสิ้น พอเขาเอาม้วนวิดีโอที่ตัดต่อแล้วมาให้ หัวหน้าผ่ายผลิตสไลด์ฯของผมถามว่า  ผมไปกำกับอย่างไร ภาพถึงดูดีได้ ผมตอบไปว่าผมไม่ได้ทำอะไร  ปล่อยให้พวกเขาใช้ความเป็นมืออาชีพของพวกเขาจัดการกันเองทั้งหมด  ถ้าผมเป็นช่างถ่ายวิดีโอ  แล้วใครมาสั่งให้ผมถ่ายโน้นถ่ายนี่โดยไม่มีการปรึกษากันมาก่อน  ผมก็คงยืนถ่ายตรงนั้น เหมือนที่ลูกน้องผมเคยทำ เพราะไม่รู้ว่าควรจะถ่ายเพื่อทำอะไร  จะได้วางแผนการถ่ายให้ดีได้ 
              
                
                    
                    ขอทานมืออาชีพ  | 
                       ที่ผมสอดแทรกเรื่องนี้เข้ามาก็เพื่อให้ใครที่จะให้มืออาชีพทำงานอะไรให้  ไม่ควรไปกำกับเขาจนไม่สามารถนำความชำนาญมาใช้ได้  แม้กระทั่งงานบันทึกเสียงผมก็ทำแบบนี้และได้ผลงานที่ดีกว่านี้ผมจะไปควบคุมเอง  
     ผมไม่มีความรู้มากพอที่จะบอกว่าแค่ไหนถึงจะเป็นมืออาชีพ  แค่มีความรู้สึกว่าอย่างน้อยต้องมีอุปกรณ์ในระดับมืออาชีพครบ  มีความเชี่ยวชาญในการใช้อุปกรณ์ รู้ว่าต้องทำอะไรในขณะนั้นอย่างคล่องแคล่ว  รู้วิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และต้องไม่ทำอะไรที่มืออาชีพเขาไม่ทำกัน เช่นไม่มักง่าย  ไม่เผลอเลอ  
     อีกประการหนึ่งผมเห็นว่ามืออาชีพควรมี นั่นคือต้องมีจรรยาบรรณ  แม้แต่โสเภณีมีระดับยังมีจรรยาบรรณคือไม่ทักลูกค้า เมื่อเจอในที่สาธารณะ  เว้นแต่ลูกค้าจะเป็นฝ่ายทักก่อน แล้วพวกมืออาชีพอย่างพวกเราที่มีอาชีพสุจริต  ควรรักษาจรรยาบรรณมั้ย อย่างน้อยต้องไม่หลอกหลอกลูกค้า   | 
                 
                |